การทำขนมข้าวเกรียบปากหม้อ
ซื้อกินหายากทำเองดีกว่า เมนูปากหม้อ แป้งเหนียวนุ่มสอดไส้หวานหรือไส้เค็ม เลือกกินกับน้ำซุป น้ำจิ้ม หรือแกล้มผัก เตรียมขึงผ้ารอเลยดีไหม
เริ่มจากเมนูปากหม้อสุดคลาสสิกนั่นคือ ข้าวเกรียบปากหม้อ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แป้งบางห่อด้วยไส้หมูผสมกุ้งแห้งรสออกหวาน ๆ เค็ม ๆ ราดกะทิเพิ่มความมัน กินกับพริกขี้หนูแลผักสดตัดเลี่ยน
ส่วนผสม แป้งข้าวเกรียบปากหม้อ • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
• แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
• แป้งเท้ายายม่อม 1/2 ช้อนโต๊ะ (แป้งชนิดนี้ใส่มากไม่ได้จะทำให้เหนียวเกินไป)
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย (โดยประมาณ)
ส่วนผสม ไส้หมู • หอมแดงสับ 6-7 หัว
• รากผักชี
• พริกไทยเม็ด
• หมูบด
• ไชโป๊เค็มสับ
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำตาลทราย
• ถั่วลิสงคั่วป่น 4-5 ทัพพี
• กุ้งแห้ง (ปั่นละเอียด) 1 กำมือ
วิธีทำข้าวเกรียบปากหม้อ 1. ล้างไชโป๊เค็มสับแล้วบีบน้ำออก (ลองแตะที่ลิ้นดู หากไม่เค็มแล้วเป็นใช้ได้) จากนั้นโขลกรากผักชีกับเม็ดพริกไทยให้ละเอียด เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในกระทะ ใส่หอมแดงลงไปผัดให้หอม ตามด้วยเครื่องโขลกไว้ หมูบด และไชโป๊ ผัดจนเข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทราย โรยถั่วลิสงคั่วป่นกับกุ้งแห้งปั่นละเอียด ผัดไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแห้งและเหนียว
4. ใส่น้ำลงในหม้อปากกว้าง (ชนิดไม่มีหูจับ) นำผ้าโทเรสีขาวเจาะรูเล็กน้อย เสร็จแล้วนำมาขึงที่ปากหม้อให้ตึง หายางมารัดให้แน่น นำไปตั้งไฟจนน้ำเดือด
5. ทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ โดยผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม่อมลงอ่างผสม เติมน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน
6. พอน้ำในหม้อเดือดปุด ๆ แล้วตักแป้งประมาณ 1/2 ทัพพี เทลงบนปากหม้อแล้วใช้ทัพพีเกลี่ย ๆ เป็นวงกลม อย่าบางเกินและหนาเกิน (เคล็ดลับคือ ถ้าในขั้นตอนนี้แป้งขาดง่าย แสดงว่า ส่วนผสมเจือจางไป ให้เติมแป้งข้าวเจ้าลงไปทีละนิด แล้วลองละเลงดู) พอละเลงแป้งแล้วก็ให้รีบปิดฝาหม้อ ประมาณ 40 วินาที เวลาเปิดฝา สังเกตแผ่นแป้งจะพองออกมาจากตัวผ้า นั่นคือแป้งที่ใช้ได้ ตักไส้ใส่ลงไป หากบ้านใครมีหม้อใหญ่กว่านี้ ก็จะทำได้ 4 ชิ้นต่อ 1 ครั้งเลย
7. ใช้พายยางหรือสปาตูล่าจุ่มน้ำปาดแป้งขึ้นมาหุ้มไส้ พับข้างละ 1 ครั้งพอ ถ้าใครขยันจะพับจีบ 4 มุมก็ได้ ตักใส่ภาชนะ ทำจนแป้งหมด
8. ใช้ใบตองตัดเป็นแฉก ๆ มัดติดตะเกียบ จุ่มน้ำมันกระเทียมเจียว เอามาทา ๆ แป้งข้าวเกรียบไม่ให้ติดกัน จัดใส่จาน ราดหัวกะทิที่ใส่เกลือนิดหนึ่ง โรยกระเทียมเจียว เสิร์ฟกับพริกขี้หนู ผักกาดหอม และผักชี
เริ่มจากเมนูปากหม้อสุดคลาสสิกนั่นคือ ข้าวเกรียบปากหม้อ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แป้งบางห่อด้วยไส้หมูผสมกุ้งแห้งรสออกหวาน ๆ เค็ม ๆ ราดกะทิเพิ่มความมัน กินกับพริกขี้หนูแลผักสดตัดเลี่ยน
ส่วนผสม แป้งข้าวเกรียบปากหม้อ • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
• แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
• แป้งเท้ายายม่อม 1/2 ช้อนโต๊ะ (แป้งชนิดนี้ใส่มากไม่ได้จะทำให้เหนียวเกินไป)
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย (โดยประมาณ)
ส่วนผสม ไส้หมู • หอมแดงสับ 6-7 หัว
• รากผักชี
• พริกไทยเม็ด
• หมูบด
• ไชโป๊เค็มสับ
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำตาลทราย
• ถั่วลิสงคั่วป่น 4-5 ทัพพี
• กุ้งแห้ง (ปั่นละเอียด) 1 กำมือ
วิธีทำข้าวเกรียบปากหม้อ 1. ล้างไชโป๊เค็มสับแล้วบีบน้ำออก (ลองแตะที่ลิ้นดู หากไม่เค็มแล้วเป็นใช้ได้) จากนั้นโขลกรากผักชีกับเม็ดพริกไทยให้ละเอียด เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในกระทะ ใส่หอมแดงลงไปผัดให้หอม ตามด้วยเครื่องโขลกไว้ หมูบด และไชโป๊ ผัดจนเข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทราย โรยถั่วลิสงคั่วป่นกับกุ้งแห้งปั่นละเอียด ผัดไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแห้งและเหนียว
4. ใส่น้ำลงในหม้อปากกว้าง (ชนิดไม่มีหูจับ) นำผ้าโทเรสีขาวเจาะรูเล็กน้อย เสร็จแล้วนำมาขึงที่ปากหม้อให้ตึง หายางมารัดให้แน่น นำไปตั้งไฟจนน้ำเดือด
5. ทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ โดยผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม่อมลงอ่างผสม เติมน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน
6. พอน้ำในหม้อเดือดปุด ๆ แล้วตักแป้งประมาณ 1/2 ทัพพี เทลงบนปากหม้อแล้วใช้ทัพพีเกลี่ย ๆ เป็นวงกลม อย่าบางเกินและหนาเกิน (เคล็ดลับคือ ถ้าในขั้นตอนนี้แป้งขาดง่าย แสดงว่า ส่วนผสมเจือจางไป ให้เติมแป้งข้าวเจ้าลงไปทีละนิด แล้วลองละเลงดู) พอละเลงแป้งแล้วก็ให้รีบปิดฝาหม้อ ประมาณ 40 วินาที เวลาเปิดฝา สังเกตแผ่นแป้งจะพองออกมาจากตัวผ้า นั่นคือแป้งที่ใช้ได้ ตักไส้ใส่ลงไป หากบ้านใครมีหม้อใหญ่กว่านี้ ก็จะทำได้ 4 ชิ้นต่อ 1 ครั้งเลย
7. ใช้พายยางหรือสปาตูล่าจุ่มน้ำปาดแป้งขึ้นมาหุ้มไส้ พับข้างละ 1 ครั้งพอ ถ้าใครขยันจะพับจีบ 4 มุมก็ได้ ตักใส่ภาชนะ ทำจนแป้งหมด
8. ใช้ใบตองตัดเป็นแฉก ๆ มัดติดตะเกียบ จุ่มน้ำมันกระเทียมเจียว เอามาทา ๆ แป้งข้าวเกรียบไม่ให้ติดกัน จัดใส่จาน ราดหัวกะทิที่ใส่เกลือนิดหนึ่ง โรยกระเทียมเจียว เสิร์ฟกับพริกขี้หนู ผักกาดหอม และผักชี
ที่มา : การทำขนมข้าวเกรียบปากหม้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น